ยาแก้แพ้ chlorpheniramine maleate มีทั้งเม็ดและน้ำ กระปุกละ 15 บาทเม็ด ถ้าเป็นขวดละ 20 บาท ยาน้ำกินยากหน่อยมันเหนียวและข่ม ใช้เวลาจามมีน้ำมูก พวกแพ้ อากาศ ลดอาการคันตามผิวหนังให้กินคู่กับแมวเด็กกินครึ่งเม็ด แมวโตกิน1เม็ด เช้าเย็น Flemex ยาแก้ไอละลายเสมหะ(ของคนเนี่ยล่ะ) ขวดละไม่เกิน 50 บาท ให้กินคู่กับยาแก้แพ้เวลาแมวเป็นหวัด เพราะยาแก้แพ้จะทำให้น้ำมูกแห้งไปลงทีคอแทนแมวจะไอแล้วจะทำให้ตาเจ็บขึ้นมา ได้(สังเกตุง่ายๆถ้าแมวมีอาการขี้ตาแฉะเค้าป่วยแล้วล่ะ) แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น Toflex 250 dry เป็นยาฆ่าเชื้อเยื่อบุผิวหนัง ขวดละไม่เกิน80บาท เป็นยาน้ำผสมน้ำแล้วใช้ได้ 7 วัน ต้องทิ้งเลย ส่วนมากหมอจะจ่ายให้ในการรักษาคู่กับ ไรหู เชื้อรา เยื่อบุผิวหนังต่างๆ แผลในช่องปาก ส่วนกรณีคันผิวหนังตามผิวหนังหมอจะจ่ายคู่กับแก้แพ้ chlorpheniramine maleate แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น Cavumox156ml ยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อ ติดเชื้อต่างๆ ขวดละไม่เกิน 80 บาท แนะนำให้ซื้อของบ.สยามฟามาซูติคอลจะถูกกว่ายี่ห้ออื่น เป็นยาน้ำผสมน้ำแล้วใช้ได้ 7 วัน ต้องทิ้งเลย เวลาที่ตาอักเสบขี้ตาเขียว รวมถึงมีอาการบวมที่ตาด้วย หรือมีน้ำมูกเขียวกินคู่กับแก้แพ้ chlorpheniramine maleate ท้องเสียรุนแรง แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น Disento เป็นยาแก้ท้องเสียรักษาเชื้อบิด เป็นยาน้ำ ขวดประมาณ 20 บาท แก้ท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำมีมูกเลือดกินต่อเนื่อง7วันเพื่อฆ่าเชื้อบิดให้หมด ครวกินคู่กับ Cavumox เพื่อคุมเชื้อด้วย กินเช้าเย็น ท่าหนักก็เสริม คาวูม็อกซ์ซักครั้ง แมวเด็ก ครึ่งcc แมวโต1-2cc เช้าเย็น poly-oph ยาหยดตา ฝาสีฟ้า ขวดละ 22-35 บาท รักษาอาการตาเจ็บ ตัวนี้ค่อนข้างปลอดภัยไม่แรงมากแมวเด็กใช้ได้ หยดวันละสามถึงสี่รอบ terramycin ขี้ผึ้งป้ายตา หลอดละ 20 บาท ใช้ป้ายทุกเช้าเย็น ถ้าหากมีอาการอักเสบมาก กินยาCavumoxช่วยวันละครั้ง (ทำความสะอาดตาก่อนป้ายขี้ผึ้งด้วยนะ) potal น้ำยาล้างตา ขวดละไม่เกิน50บาทใช้เช็ดตาทุกเช้าสำหรับแมวที่มีน้ำตาเยอะ ค่อนข้างดีกับแมวไม่ระคายเคลือง desoryl ยารักษาไรหู ขวดประมาณ 200 บาท(หมอคิดตั้ง 350) หาชื้อได้ตามร้านแพ็ทช้อป หยดทุกวันติดต่อกันสองอาทิตย์ เช้าเย็น ก่อนหยดควรทำความสะอาดหูให้เรียบร้อยก่อน sporal 100 ยาเชื้อรา สำหรับคน ถ้าติดจากแมว กินเช้าเย็นเลย เวลาเป็นจะคันมาก(เพราะเคยเป็นมาแล้ว) ต้องกินยาสองอาทิตย์เลย ทาคันมากใช้คาเนสเทน ช่วยบรรเทาอาการตคัน ทาบ่อยๆ สำคัญมากเพราะทายาเดียวไม่หาย ปล.ยาทั้งหมดนี้เป็นยาที่หมอจัดให้แมวที่บ้านที่เคยป่วยมาทั้งนั้นจ๊ะ ซื้อติดบ้านไว้ประหยัดกว่าไปหาหมอกว่า แต่ท่ารักษาเอง3-4 วันอาการไม่ดีขึ้นแนะนำพาให้หาหมอตรวจหาต้นเหตุดีกว่านะค่ะ |
ที่มา : www.trangpets.com |
ในส่วนตัวของ WM เองที่จะมีติดบ้านเพิ่มคือ Tofedine 6 มก. (1 เม็ด สำหรับแมว/สุนัข ที่มีน้ำหนัก 1.5 กก.) (ยาสัตว์) เป็นยาบรรเทาปวด ลดไข้สำหรับลูกสุนัขและแมวโดยเฉพาะ WM จะใช้ในเวลาที่แมวที่บ้านมีอาการตัวร้อนจัด แต่หากทานแล้วอาการตัวร้อนยังไม่ยอมลด หรืออาการไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบพาไปหาหมอเร็วที่สุด ยานี้ค่อนข้างอันตราย ควรอ่านข้อบ่งใช้ก่อนใช้ยา และไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 3 วัน Rowatinex (ยาคน) เป็นยาลดการหดเกร็งของท่อทางเดินปัสสาวะ และอาการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับภาวะการเกิดนิ่ว และยังช่วยละลายและขับก้อนนิ่วในไต กินครั้งละ 1 เม็ด เช้า และเย็น WM จะใช้ในกรณีที่แมวมีอาการฉี่ไม่ค่อยออก ฉี่กระปริบประปรอย หรือมีอาการเบ่งฉี่ แต่หากทานแล้วภายใน 1-2 วัน อาการไม่ดีขึ้น ก็ต้องรีบพาหาหมอ Baytrill 50 mg (ยาสัตว์) เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตัวยาที่ออกฤทธิ์คือ Enrofloxacin คุรหมอมักจะจ่ายยาตัวนี้มาให้ในกรณีที่มีการติดเชื้อ เช่นฝี หนอง ท้องเสีย หรือมีการอักเสบติดเชื้อ WM จึงมักจะมียาตัวนี้ติดบ้านอยู่เป็นประจำ กินครั้งละ ครึ่งเม็ด วันละครั้ง ( 1 เม็ด / นน. 10 กก.) Hepalac (ยาคน) สำหรับน้องแมวที่มีอาการถ่ายไม่ออก ท้องผูก หรือถ่ายลำบาก เพราะอุจจาระแข็ง เป็นยาที่ช่วยทำให้อุจจาระนิ่มตัว ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น ในกรณีที่ไม่ท้องผูกมาก กินครั้งละ 3 ซีซี วันละ 1 ครั้ง หากมีอาการท้องผูกมาก กินครั้งละ 4-5 ซีซี วันละ 1 ครั้ง Trinolone (ไตรโนโลน ชนิดป้ายปาก) (ยาคน) เป็นยาป้ายปาก เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ อาการปวด บนเยื่อบุภายในปาก หรือบนลิ้น ที่เกิดจากสาเหตุ เช่นถูกความร้อน ฟันขบ ถูกสารเคมี อาหารไม่ย่อย แต่ห้ามใช้กับแผลภายในปากที่เกิดจากเชื้อไวรัส น้องแมวที่มีอายุมาก หรือน้องแมวที่ป่วย มักจะมีอาการปากเป็นแผล หรือลิ้นเป็นแผล บีบยาใส่ค็อตต้อนบัด หรือนิ้วมือ ป้ายเข้าไปในช่องปากหรือลิ้น น้องเหมียวอาจจะมีอาการน้ำลายฟูมปาก ไม่ต้องตกใจน่ะค่ะ ไม่ได้มีอันตราย เพียงแค่เขาไม่ชอบกลิ่น และรสชาด (เมนทอลนิดๆเย็นหน่อยๆ) |
การใช้ยาทุกชนิดต้อง ใช้ด้วยความระมัดระวัง และควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเสมอ หากใช้ยาแล้วไม่ได้ผลภายใน 1-2 วัน ควรรีบพาน้องเหมียวของท่านไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.rakmaw.com